แม็ค อัลลิสเตอร์ มิดฟิลด์ป้ายแดงลิเวอร์พูลดีกรีแชมป์โลก
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ( Alexis Mac Allister ) กองกลางตัวความหวังใหม่ของลิเวอร์พูล แม็ค อัลลิสเตอร์ เป็นนักเตะสารพัดประโยชน์โดยสามารถเล่นได้ทางกองกลางตัวรับ กองกลางตัวทำเกม เพลย์เมกเกอร์ หรือจนกระทั่งเล่นในตำแหน่ง False 9 หรือที่ทุกคนรู้ก็คือตำแหน่งหน้าต่ำ ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่แล้ว Mac Allister พึ่งตอบตกลงย้ายมาร่วมทัพหงส์แดงด้วยค่าตัวรวมแอดออนราว ๆ 55 ล้านปอนด์ โดยเขาย้ายจากนกนางนวลไบรท์ตัน โดยเขาค้าแข้งกับ Brighton อยู่ 4 ปี โดยทางไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ซื้อตัวเขามาด้วยราคาเพียง 8 ล้านปอนด์ จาก อาร์เจนติโนส จูเนียร์
เขาเข้ามายกระดับทีม “นกนางนวล” อย่างชัดเจน โดยเขาเป็นตัวหลักของทีมนกนางนวล สามารถพาจบอันดับที่ 6 ในศึกพรีเมียร์ลีก และ การันตีคว้าตั๋วไปเล่นรายการยุโรปเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์สโมสร และ ยังเป็นนักเตะตัวหลักชุดแชมป์ฟุตบอลโลกปีล่าสุดกับทีมชาติ อาร์เจนติน่า อีกด้วย เขาเป็นผู้เล่นรายแรกในตลาดซื้อขายของทีม ลิเวอร์พูล ในซัมเมอร์นี้
เชื่อว่าเขาจะเข้ามายกระดับในแดนกลางให้กับลิเวอร์พูลอยางแน่นอน เพราะ Liverpool มีปัญหาในแผงกลางมาตลอดทั้งซีซั่นที่ผ่านมา เขาทำผลงานได้เป็นอย่างดีกับ Brighton & Hove Albion และ ทีมชาติอาร์เจนติน่า เขาลงเล่นให้สโมสรไบรท์ตันไปถึง 112 นัด และ ทำผลงานได้ดีในตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา ทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ สนใจที่จะดึงตัวเขามาร่วมทีมนั่นเอง
Alexis Mac Allister เกิดวันที่ 24 ธันวาคม ค.ศ.1998 หรือ พ.ศ. 2541 อายุ 24 ปี ส่วนสูงของเขาคือ 176 เซนติเมตร เขาเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์คนหนึ่ง เขาเป็นผู้เล่นที่มีพรสวรรค์ทางเทคนิคสูง ขับเคลื่อนเกมรุกได้เป็นอย่างดี ถึงจะเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์แต่เขาก็สามารถจบสกอร์ได้
เป็นนักเตะที่มีร่างกายฟิต วิ่งได้ทั้งเกม ถึงแม้จะพึ่งอายุเพียง 24 ปี แต่เขาก็มีประสบการณ์สูงเนื่องด้วยได้เล่นเคียงข้างกับนักเตะระดับโลกอย่าง ลีโอเนล เมสซี่ โดยบทบาทที่เขาถนัดที่สุดก็คือนักเตะเบอร์ 10 โดยเขาเข้ามาใส่เบอร์ 10 ของ หงส์แดง แทนเจ้าของเดิมอย่าง ซาดิโอ มาเน่ ที่ย้ายไปร่วม ทีมเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
เชื่อว่าเขาจะทำให้เกมรุกของ ลิเวอร์พูล มีมิติมากขึ้น เขาเกิดในครอบครัวนักฟุตบอลจึงทำให้เขาชื่นชอบฟุตบอลตั้งแต่เด็ก ๆ และ ฝึกซ้อมเสมอมา แม็ค อัลลิสเตอร์ ประเดิมสนามในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ ในวัย 17 ปี เขาจะยกระดับลิเวอร์พูลมากแค่ไหนติดตามชมในฤดูกาลที่จะถึงนี้ได้เลย